; มะลิลา ไม้โบราณคู่ไทยมานาน | MHMG

มะลิลา ไม้โบราณคู่ไทยมานาน

 

Jasmine

มะลิลา (Jasminum sambac) เป็นไม้ดอกที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่กับวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยดอกสีขาวบริสุทธิ์ กลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ที่มักบานในช่วงเช้า 

ทำให้มะลิลาเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในด้านการปลูกประดับบ้าน การใช้ในงานมงคล และการนำมาร้อยพวงมาลัยถวายพระหรือมอบให้ผู้ใหญ่ในวันสำคัญ โดยเฉพาะ “วันแม่แห่งชาติ” ที่มะลิถือเป็นสัญลักษณ์แทนความรักและความกตัญญู มะลิลาไม่เพียงแต่มีความงามและกลิ่นหอมเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางสมุนไพรและใช้ประโยชน์ในด้านการแต่งกลิ่นอาหารและน้ำดื่มอีกด้วย 

การปลูกและดูแลมะลิลาไม่ซับซ้อน เหมาะกับทั้งผู้ที่มีพื้นที่กว้างและพื้นที่จำกัด หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม มะลิสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี

ลักษณะทั่วไปของมะลิลา

ต้นมะลิลา

มะลิลาเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยในวงศ์ Oleaceae สูงประมาณ 1–2 เมตร ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านมาก เปลือกสีน้ำตาลอมเขียว ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายแหลม โคนมน ผิวใบเรียบเป็นมัน ดอกมีสีขาว กลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น ขนาดดอกประมาณ 2–3 ซม. มีกลิ่นหอมแรงโดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่ ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลมีลักษณะกลมเล็ก สีเขียวเมื่ออ่อนและเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสุก


สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • แสงแดด: ชอบแสงแดดจัดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการออกดอก
  • ดิน: ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง ค่ากรด-ด่างอยู่ระหว่าง 6.0–6.5
  • น้ำ: ต้องการน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ชอบน้ำขัง
  • อากาศ: เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น


วิธีปลูกมะลิลา

การขยายพันธุ์

มะลิลาสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น

  • ปักชำกิ่ง – เลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ยาวประมาณ 15–20 ซม. ตัดใบล่างออก ปักลงในดินผสม (ดินร่วน:ทราย:ปุ๋ยคอก 1:1:1) รดน้ำพอชุ่ม
  • ตอนกิ่ง – เลือกกิ่งสมบูรณ์ ขูดเปลือกเล็กน้อย หุ้มด้วยขุยมะพร้าวชุบน้ำหมาด ๆ แล้วพันพลาสติกใส ทิ้งไว้ 20–30 วัน รากจะงอก
  • เพาะเมล็ด – ใช้เมล็ดแก่จากผลมะลิ นำมาล้างให้สะอาด แช่น้ำ 24 ชั่วโมง ก่อนเพาะในดินผสม

การปลูกลงดิน

  • ขุดหลุมกว้างและลึกประมาณ 30×30 ซม.
  • รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
  • นำต้นมะลิลงปลูก กลบดินและกดให้แน่น
  • รดน้ำให้ชุ่มและปักไม้ค้ำเพื่อกันล้ม

การปลูกในกระถาง

  • เลือกกระถางขนาด 12–16 นิ้ว มีรูระบายน้ำ
  • ใช้ดินผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก และทรายหยาบ
  • วางกระถางในที่แดดจัด


การดูแลมะลิลา

การรดน้ำ

  • รดน้ำวันละ 1–2 ครั้งในช่วงหน้าแล้ง
  • ลดเหลือวันละครั้งในหน้าฝนหรือช่วงอากาศเย็น
  • หลีกเลี่ยงน้ำขังเพราะทำให้รากเน่า

การใส่ปุ๋ย

  • ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง
  • ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (15-15-15) ทุก 1–2 เดือน
  • หากต้องการเร่งดอก ให้ใช้ปุ๋ยสูตรฟอสฟอรัสสูง (8-24-24)

การตัดแต่งกิ่ง

  • ตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งที่ไขว้กัน และกิ่งที่ออกดอกแล้ว เพื่อกระตุ้นการแตกยอดใหม่
  • ควรตัดแต่งหลังจากออกดอกเสร็จรอบหนึ่ง

การป้องกันโรคและแมลง

  • ศัตรูพืชที่พบบ่อย ได้แก่ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ และหนอนเจาะดอก
  • ใช้น้ำสบู่ หรือสารสกัดสะเดาฉีดพ่นเพื่อลดการระบาด
  • โรครากเน่า ควรป้องกันด้วยการระบายน้ำให้ดี


ทิปวิธีกระตุ้นให้มะลิลาออกดอกตลอดปี

  • ตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ
  • ให้ปุ๋ยสูตรเร่งดอกเป็นระยะ
  • รดน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่มากเกินไป
  • วางในตำแหน่งที่ได้รับแสงเพียงพอ


ประโยชน์ของมะลิลา

  • ประดับตกแต่ง – ปลูกเป็นไม้ประดับสวนหรือริมรั้ว กลิ่นหอมช่วยสร้างบรรยากาศ
  • ใช้ในพิธีกรรมและวัฒนธรรม – ร้อยพวงมาลัย ถวายพระ หรือมอบให้ผู้ใหญ่ในงานมงคล
  • แต่งกลิ่นอาหารและเครื่องดื่ม – ใช้ดอกมะลิลอยน้ำดื่ม แต่งกลิ่นขนม เช่น ขนมชั้น ขนมดอกลำเจียก
  • สมุนไพร – ดอกมะลิใช้ทำชามะลิ ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด ใบและรากใช้แก้ไข้หรือเป็นยาพอก
  • บำบัดอารมณ์ – กลิ่นหอมของดอกมะลิช่วยให้รู้สึกสงบ ลดความวิตกกังวล


เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

  • เลือกต้นพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • หลีกเลี่ยงการปลูกในที่ร่มหรือมีลมแรงมาก
  • อย่ารดน้ำจนดินแฉะเกินไป
  • หากปลูกในกระถาง ควรเปลี่ยนดินทุก 1–2 ปี


0 Post a Comment

ใส่คำแนะนำในส่วนนี้ได้เลยค่ะ