; ต้นเชอรี่แคระ | MHMG

ต้นเชอรี่แคระ

ดอกเชอรี่แคระ

ต้นเชอรี่แคระ (Dwarf Cherry) เป็นไม้ผลขนาดเล็กที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักการปลูกไม้ประดับและไม้ผลในบ้าน เนื่องจากมีลักษณะต้นเตี้ย กิ่งก้านสวยงาม 

ต้นเชอรี่แคระ สามารถปลูกได้ในกระถาง หรือพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังให้ผลจริงที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สีสันสดใสเหมาะสำหรับใช้ตกแต่งสวนหรือระเบียงบ้าน นอกจากนี้ต้นเชอรี่แคระยังดูแลง่าย เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศของประเทศไทยหากดูแลอย่างเหมาะสม จึงเหมาะกับทั้งผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือเริ่มต้นปลูกไม้ผลครั้งแรก

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับต้นเชอรี่แคระตั้งแต่ลักษณะพันธุ์ วิธีปลูก การดูแลรักษา การขยายพันธุ์ รวมถึงประโยชน์จากการปลูกต้นไม้ชนิดนี้ทั้งในเชิงสุขภาพ ความสวยงาม และการใช้ประโยชน์ในครัวเรือน เพื่อให้คุณสามารถปลูกและดูแลต้นเชอรี่แคระได้อย่างมั่นใจ และได้ผลผลิตที่น่าพอใจในระยะยาว

ลักษณะทั่วไปของต้นเชอรี่แคระ

  • ชื่อสามัญ: Dwarf Cherry Tree
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: *Prunus cerasus var. nanaหรือสายพันธุ์ลูกผสม
  • ความสูงเฉลี่ย: 50 ซม. - 1.2 เมตร
  • ใบ: รูปรี ขอบหยักเล็กน้อย สีเขียวเข้ม
  • ดอก: สีขาวหรือชมพูอ่อน ออกเป็นช่อตามกิ่ง
  • ผล: กลม สีแดงเข้มหรือแดงอมม่วง รสเปรี้ยวหวาน
  • การปลูก: นิยมปลูกในกระถางหรือแปลงยกพื้น
  • ออกผล: ปีละ 1–2 ครั้ง


วิธีปลูกต้นเชอรี่แคระ

ต้นเชอรี่แคระ

1 การเลือกวัสดุปลูก

  • ดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี
  • ปุ๋ยคอกผสมดินปลูกในอัตรา 2:1
  • กระถางควรมีรูระบายน้ำและเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 10–12 นิ้ว

2 ขั้นตอนการปลูก

  • เตรียมกระถางปลูก: รองก้นกระถางด้วยหินกรวด
  • ใส่วัสดุปลูก: ผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก และทราย
  • ลงต้นกล้า: วางต้นกล้าลงในหลุมปลูก กลบดินแน่น
  • รดน้ำทันที: เพื่อให้ดินแน่นกระชับกับราก
  • ตั้งในที่แสงแดดส่องถึง 4–6 ชม./วัน


การดูแลรักษาต้นเชอรี่แคระ

1 แสงแดด

  • ต้องการแสงแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน
  • หากปลูกในที่ร่มเกินไปจะไม่ออกดอก

2 การรดน้ำ

  • รดน้ำวันละ 1 ครั้งในฤดูร้อน
  • ฤดูฝนให้ลดเหลือ 2–3 วันครั้ง
  • อย่าให้น้ำขัง อาจทำให้รากเน่า

3 การใส่ปุ๋ย

  • ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง
  • ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ทุก 2 เดือนช่วงต้นโต
  • ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เมื่อใกล้ออกดอก

4 การตัดแต่งกิ่ง

  • ตัดแต่งกิ่งแห้งหรือแตกผิดรูปทุก 2 เดือน
  • ช่วยให้แสงเข้าถึงและป้องกันศัตรูพืช

5 การป้องกันโรค

  • โรคใบจุด แก้โดยฉีดพ่นด้วยสารคอปเปอร์
  • เพลี้ยแป้ง: ใช้น้ำสบู่เจือจางฉีด
  • มด: โรยปูนขาวรอบกระถางหรือใช้เหยื่อล่อ


วิธีขยายพันธุ์

1 การปักชำกิ่ง

  • เลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ยาวประมาณ 6 นิ้ว
  • จุ่มฮอร์โมนเร่งรากก่อนปักลงวัสดุปลูก
  • รดน้ำพอชื้นและคลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อเก็บความชื้น
  • รากเริ่มงอกใน 3–4 สัปดาห์

2 การตอนกิ่ง

  • ใช้มีดกรีดเปลือกออกบริเวณข้อกิ่ง
  • พันด้วยขุยมะพร้าวชุบน้ำและพลาสติก
  • รากจะออกใน 4–6 สัปดาห์
  • ตัดกิ่งและปลูกในกระถางใหม่


ประโยชน์ของต้นเชอรี่แคระ

1 ด้านสุขภาพ

  • ผลเชอรี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แอนโทไซยานิน
  • วิตามินซี วิตามินเอ และโพแทสเซียม
  • ลดการอักเสบ ช่วยให้นอนหลับสบาย
  • บำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต

2 ด้านความงามและตกแต่ง

  • ต้นทรงพุ่มเล็กสวยงาม ดอกสีอ่อนน่ารัก
  • เหมาะสำหรับตกแต่งระเบียงหรือคอนโด
  • ปลูกในกระถางเซรามิกเพิ่มความมีสไตล์

3 ด้านเศรษฐกิจ

  • ขายผลสดหรือแปรรูปเป็นแยม เชอรี่ดอง
  • ขยายพันธุ์ขายในรูปแบบไม้ประดับ
  • เหมาะสำหรับขายในตลาดต้นไม้เมือง


เคล็ดลับการปลูกให้ได้ผลผลิตดี

  • ปลูกในที่โปร่ง: ให้ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ
  • บำรุงสม่ำเสมอ: เน้นใส่ปุ๋ยก่อนออกดอกและหลังติดผล
  • ตัดแต่งประจำ: เพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งใหม่
  • ไม่ย้ายกระถางบ่อย: อาจทำให้ต้นชะงักการเติบโต
  • ระวังน้ำขัง: เป็นสาเหตุของรากเน่าและโรคเชื้อรา


คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น

  • เริ่มจากการซื้อกิ่งตอนหรือต้นกล้าจากร้านที่เชื่อถือได้
  • ปลูกในกระถางก่อนแล้วค่อยย้ายลงดินเมื่อแข็งแรง
  • หมั่นสังเกตการเจริญเติบโต เช่น ใบเหลือง ดอกร่วง
  • ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อความปลอดภัยหากปลูกเพื่อบริโภค


บทสรุป ต้นเชอรี่แคระเป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และให้ทั้งความสวยงามและผลผลิตที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือชื่นชอบการปลูกต้นไม้ตกแต่งบ้าน นอกจากจะช่วยเสริมบรรยากาศสดชื่นแล้ว ยังสามารถนำผลเชอรี่มาใช้บริโภคและดูแลสุขภาพได้อีกด้วย หากดูแลอย่างเหมาะสม ต้นเชอรี่แคระสามารถออกดอกออกผลได้ตลอดปี และกลายเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเจ้าของที่ได้ปลูกเองกับมือ


0 Post a Comment

ใส่คำแนะนำในส่วนนี้ได้เลยค่ะ